“มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ( home4animals )” และจะพาไปทำความรู้จักกับ คุณครรชิต วาพิไลผู้ช่วยผู้จัดการ
สวัสดีเพื่อน ๆ
นักอ่านทุกท่าน ในโลกที่แสนกว้างใหญ่ใบนี้
ยังมีเจ้าตัวเล็กที่น่าสงสารอีกหลายชีวิต ที่รอให้ทุกคนมองเห็นเขาอยู่
ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดที่ถูกทิ้งนั้น เป็นปัญหาสังคมที่ได้รับผลกระทบกันทุกฝ่าย
ตอนที่เขายังเป็นเด็กก็จะมีความน่ารักน่าเอ็นดู แต่พอพวกเขาเริ่มอายุเยอะขึ้น
ก็จะหมดความน่ารักลง แล้วมักจะจบลงที่การถูกทิ้งตามสถานที่ต่าง ๆMy Beloved Story ฉบับนี้เรามีผู้ใหญ่ใจดีจากแบรนด์
Pro ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารสุนัขและแมวที่ถูกสร้างมา
เพื่อคนที่ต้องการจะใช้อาหารในปริมาณมาก ๆ และราคาจับต้องได้
หรือสำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้จะพาเพื่อน ๆ
ทุกคนไปทำบุญมอบอาหารน้องหมาน้องแมวร่วมกันที่ “มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ( home4animals )” และจะพาไปทำความรู้จักกับ
คุณครรชิต วาพิไล
ผู้ช่วยผู้จัดการและเป็นคนดูแลเรื่องการเงิน ที่มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ( home4animals ) ผู้ที่รับผิดชอบการดูแลน้องหมาและน้องแมวทั้งหมด
800 กว่าชีวิต พอเราเดินเข้ามาที่มูลนิธิ
จะมีพี่ ๆ เจ้าหน้าที่มาคอยต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น สถานที่สงบ
และยังมีคาเฟ่อยู่ด้านหน้าของมูลนิธิอีกด้วย
สำหรับใครที่เป็นสายคาเฟ่แมวต้องถูกใจแน่ๆ
เพราะทางมูลนิธิจัดห้องน้องแมวไว้ให้เข้าไปได้เล่นกับน้องๆได้
แต่คาเฟ่จะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะ
สำหรับใครที่หาที่พักผ่อนอยู่ก็สามารถเข้ามาได้เลย แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปหาน้อง ๆ ด้านในที่พัก
ก็ขอทำการมอบ Pro อาหารสำหรับสุนัขและแมว
ให้กับทางมูลนิธิกันก่อน ซึ่งทางเราได้รับเกียรติจาก คุณวรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด(มหาชน) เป็นผู้มอบให้กับทางมูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการในครั้งนี้คุณวรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ได้บอกว่า
“จุดเริ่มต้นของเราก็คือเริ่มมาจากการทำอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกระดับพรีเมี่ยม
พอวันนึงเราได้ประสบความสำเร็จในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกแล้ว
เราต้องหันมามองภายในบ้านเราด้วย ว่าในบ้านของเราก็ยังมีน้องหมาน้องแมว
ที่เขายังได้รับสารอาหารที่ไม่ถูกต้องอยู่
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีกำลังจะซัพพอร์ตอาหารในราคาแพง ๆ ได้
เราจึงมีเจตจํานงที่จะผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง
ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขและแมวในปริมาณมาก
หรือผู้เลี้ยงมีกำลังทรัพย์ไม่มากพอ แต่ว่าเรามีความต้องการที่จะให้น้อง ๆ
ได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วน ตามมาตราฐานของ AAFCO ในราคาที่คนเลี้ยงสามารถจับต้องได้ค่ะ”พอทำการมอบอาหารเป็นอันเสร็จสิ้น
ทางเราก็ได้เข้าไปเยี่ยมชมน้อง ๆ ที่อยู่ในมูลนิธิ โดยมีคุณครรชิต พาเดินรอบ ๆ คุณครรชิต
เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มอยู่ที่ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แต่ได้มีผู้ใจบุญมอบพื้นที่
ที่ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีให้ เนื้อที่กว่า 200 ตารางวา ทำให้ทางมูลนิธิได้ย้ายน้อง ๆ
มาอยู่ที่ปากเกร็ด นนทบุรี และได้มีหนังสือพิมพ์มาทำข่าวจนเป็นที่รู้จัก
และได้ทราบไปถึงหลวงตามหาบัว ท่านจึงเดินทางมาหาดูด้วยตัวเอง และทำการบริจารปัจจัย
100,000 บาทต่อเดือน
ซื้อที่ดินให้อีก 1 แปลง
และยังทำการสั่งให้สร้างตึก เพื่อให้สัตว์พิการได้มีอยู่อาศัย
นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์พิการ (
ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ) จนถึงปัจจุบันนี้ที่มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการยังมีโครงการที่น่าสนใจอีก
3 โครงการโครงการน้องหมาหาบ้าน
โครงการวันละบาทต่อชีวิตหมาแมว โครงการหนูอยากมีพ่อแม่“จริง ๆ
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นมูลนิธิเอกชน เราสร้างขึ้นเพื่อที่ต้องการจะแบ่งเบาภาระสังคมครับ
โดยการให้หมาแมวที่ไม่มีที่อยู่ ให้เขาได้มีที่อยู่อาศัย มีสุขลักษณะที่ดี
พอได้เห็นว่าเขาช่วยเหลือตัวเองได้ เขาได้มีเพื่อน ได้มีบ้านที่อบอุ่น
เราก็รู้สึกภูมิใจมากครับ” ตอนผู้เขียนได้ฟังที่ คุณครรชิต วาพิไล สัมภาษณ์ก็รู้สึกได้ถึง ความตั้งใจ และความภูมิใจเป็นอย่างมาก
คุณครรชิต วาพิไล เล่าให้ฟังว่า
“ทุกอย่างที่พวกเราเห็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านของน้องหมาน้องแมว หรืออาหารต่าง ๆ
ล้วนมาจากการบริจาคของผู้ใจบุญทั้งหมด
เราทำให้ทุกคนได้เห็นว่าเงินทุกบาทของผู้ใจบุญทุกคน ได้ใช้ประโยชน์ทั้งหมดครับ”
และคุณครรชิต
ก็อยากจะฝากถึงคนที่จะเริ่มเลี้ยงน้องหมาน้องแมวหรือเริ่มที่จะรับเลี้ยง
“ต้องขอบอกก่อน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวอะครับ
เราจะต้องศึกษาสายพันธุ์ของพวกเขาก่อน
เพราะว่าสัตว์ทุกชนิดเขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกับมนุษย์เรานิแหละครับ
ในเมื่อเราตัดสินใจที่จะเอาเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราแล้ว
ก็อยากจะบอกว่าเวลาเขาป่วยหรือบาดเจ็บ เราก็ต้องพาเขาไปหาหมอ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่น่ารักเหมือนตอนแรกแล้วเอาเขาไปปล่อยข้างถนน มันไม่ถูกต้องนะครับ
เพราะว่าเขาก็มีหัวใจเหมือนกับพวกเราครับ”